นอภ. ปัดปมส่วย โกดังพลุระเบิด สองผัวเมียเจ้าของโกดังอดประกันตัว

Estimated read time 1 min read

พนักงานสอบสวน คุมตัว 2 ผัวเมีย เจ้าของ โกดังพลุระเบิด ไปฝากขังศาล พร้อมยื่นคัดค้านประกันตัว ส่งเข้าเรือนจำ ผบช ภ.9 เผยเตรียมออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม พร้อมจี้สอบตำรวจรับส่วยดอกไม้ไฟ มั่นใจว่าอีก 1 สัปดาห์รู้ผล ย้ำหากทำผิดไม่ปล่อยผ่านแน่

ด้านนายอำเภอ สุไหงโก-ลก แจงไม่รู้จักเจ้าของโกดัง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเรียกเก็บส่วย แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบ พร้อมเข้าให้ปากคำ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ในขณะที่บิ้กป้อม ยกคณะไปซับน้ำตาเหล่าคนในพื้นที่ตลาดมูโนะ

ถือว่าเป็นคดีดัง ที่สังคมเฝ้าจับตามองอยู่ กรณี โกดังเก็บพลุ และดอกไม้ไฟระเบิด กลางตลาดมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จนมีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บอีก 389 ราย ร้านค้าและบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 682 หลัง

หลังตำรวจดำเนินคดี กับนายสมปอง ณะกุล หรือเสี่ยไหว และน.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ หรือเจ๊หลิน 2 สามีภรรยา เจ้าของ โกดังพลุระเบิด และเตรียมเรียกสอบปากคำนายอำเภอ อุตสาหกรรมจังหวัด และนายก อบต. ในพื้นที่ ว่าปล่อยปละละเลย ให้มีการลักลอบนำพลุจำนวนมาก เก็บไว้ในชุมชนหรือไม่ รวมถึงสอบขยายผล ขบวนการเรียกรับส่วย

ด้านความคืบหน้าการดำเนินคดี กับผู้ต้องหาเหตุโกดังพลุระเบิด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 สิงหาคม 2566 พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว สอบปากคำ สมปอง ณะกุล และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ เจ้าของโกดัง ที่ถูกคุมตัวอยู่ ที่กก.สส.ภ.จ.นราธิวาส

จากนั้น ได้นำตัวผู้ต้องหา ไปยื่นฝากขังศาลจังหวัดนราธิราส และยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จ และต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานต่าง ๆ ที่เก็บได้ ณ ที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะผลตรวจสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์

ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวน 2 เจ้าของโกดังพลุระเบิด อย่างเข้มข้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากอาจจะส่งผลกับหลักฐานทางคดี เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพในบางส่วน และได้ปฏิเสธในบางส่วน และคาดว่าคดีนี้ น่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีการระดมพนักงานสอบสวนทุกส่วนเข้ามาดูแล ส่วนเรื่องการขออนุญาต การขนส่ง การเก็บรักษาพลุและดอกไม้ไฟ ถ้าไม่อยู่ในระบบที่กฎหมายกำหนด ก็จะมีความผิด

และเบื้องต้น จะมีการออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่ม ส่วน 2 เจ้าของโกดัง หลังจากสอบสวนข้อกล่าวหา จากเดิมมีอยู่ 4 ข้อหา ซึ่งอาจจะมีเพิ่มเติมอีก การรับโทษก็จะแยกเป็นคดี ๆ ซึ่งในขณะนี้ ทั้ง 2 คนมีความตึงเครียด วิตกกังวล เจ้าหน้าที่ติดกล้องวงจรปิด เพื่อเฝ้าระวังการคิดสั้น

พล.ต.ท.นันทเดช ยังได้กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการสืบสวน ส่วยมูโนะ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำเกินหน้าที่ หรือมีการเรียกรับสินบน ในขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว การสอบสวนจะแยกความผิดออกเป็น 2 ส่วน ทั้งการปกครอง และวินัย จะให้เวลาสอบสวน 1 สัปดาห์ หรืออาจจะขยายผลต่อ เพื่อให้ผลการสอบสวนครอบคลุมในทุกด้าน แต่ยืนยันว่า ถ้าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะไม่มีการปล่อยผ่านอย่างแน่นอน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขออนุญาตโกดังเก็บพลุมาสอบสวนฐานปล่อยปละละเลย

ประกอบด้วย อุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอสุไหงโก-ลก และนายก อบต.มูโนะนั้น ล่าสุดนายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ออกมาชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดติดต่อมาให้รับทราบ แต่หากเรียกสอบก็ยินดีให้ความร่วมมือ ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการเก็บส่วย ไม่มีความสนิทสนมกับ 2 สามีภรรยาเจ้าของโกดัง แต่เมื่ออยู่ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบและถูกมองว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องก็พร้อมจะเดินทางไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ด้านนายรุสลาม อาแว นายก อบต.มูโนะ หน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบโดยตรง กล่าวว่า เรื่องที่มีข่าวว่าจะถูกตำรวจเรียกตัวขึ้นไปสอบสวนยังไม่รับทราบ แต่ที่ผ่านมาตนเคยถูกเรียกตัวไปสอบสวนในระดับจังหวัดและอำเภอมาแล้ว 2 ครั้ง เรื่องการขออนุญาตก่อสร้างโกดังดังกล่าวมีการขออนุญาตขนาด 450 ตารางเมตร ถือว่าเป็นโกดังธรรมดาทั่วไปที่สองสามีภรรยาเอาไว้เก็บอุปกรณ์การเกษตรที่จำหน่ายที่ร้าน แต่อาจจะมีการแอบลักลอบนำดอกไม้เพลิงชนิดต่างๆมาเก็บไว้

ขณะที่นายโดม ถนอมบูรณ์ อุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส กล่าวเพียงสั้นๆถึงเรื่องดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องหรือเห็นเอกสารในเรื่องที่จะถูกเรียกไปสอบปากคำ ไม่สามารถให้รายละเอียดได้

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปติดตามการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิดที่ตลาดมูโนะ จากนั้นไปตรวจดูความคืบหน้าการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้านมูโนะที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บที่นอนรักษาตัวที่ รพ.สุไหงโก-ลก พร้อมกับกล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศที่หลั่งไหลร่วมกันบริจาคเงินกว่า 23 ล้านบาท และความช่วยเหลืออื่นๆมาอย่างไม่ขาดสาย

พล.อ.ประวิตรกล่าวด้วยว่า ฝากย้ำไปยังกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุพลุระเบิดในครั้งนี้จะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ถือเป็นความเสียหายที่ไม่อาจยอมรับได้และต้องมีผู้รับผิดชอบ ขอให้สอบลงลึกเชื่อมโยงทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเลยหน้าที่ หรือแสวงประโยชน์อันมิชอบอย่างจริงจัง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

โกดังพลุระเบิด

ระดับคั่วกาแฟ

+ There are no comments

Add yours